กิจกรรม( Activity
)
1.สืบค้นจากหนังสือหรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรื่อง
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตร
จากการศึกษาแบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรในรูปแบบต่าง
ๆ เริ่มตั้งแต่ของโอลิวา , ไทเลอร์ , ทาบา
เซเลอร์,อเล็กซานเดอร์และเลวีส และ SU MODEL ทำให้เราได้ทิศทางการพัฒนาหลักสูตร
โดยพัฒนาขึ้นมาเป็นรูปแบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรได้ดังนี้
จากแผนภาพนี้
เป็นการแสดงแบบจำลองในการพัฒนาหลักสูตร
โดยมีองค์ประกอบเริ่มจากการวิเคราะห์ผู้เรียน ซึ่งอยู่ภายใต้บริบทของสังคม
การเมือง ศาสนา การศึกษา วัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไปของผู้เรียน
ผู้พัฒนาหรือผู้จัดทำหลักสูตรนั้น ๆภายใต้เงื่อนไขและบริบทเหล่านั้น
เพื่อให้เกิดสิ่งที่ต้องการเน้นในหลักสูตรคือ
K( Knowledge ) คือ ความรู้ที่มีความแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาและระดับการศึกษาของผู้เรียน
A ( Attitude ) คือ ความมีทัศนคติหรือเจตคติต่อสิ่งที่เรียน
S ( Skills ) คือ ทักษะต่าง ๆที่ต้องการจะให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
ในขั้นต่อมาคือ การกำหนดเนื้อหารายละเอียดของหลักสูตร ซึ่งจะต้องมีเนื้อหากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้เกิด KAS หรือพฤติกรรมที่คาดหวัง ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
จากขั้นที่ 2 เป็นการพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางที่หลักสูตรกำหนดผ่านกระบวนการ Learning ที่เป็นการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่มีการวัดผล ประเมินผลควบคุมไว้ ซึ่งการวัดผล ประเมินผล ที่มีทั้งเป็น Formative Evaluation และ Summative Evaluation ซึ่งในขั้นสุดท้าย ผู้เรียนจะได้เรียนรู้และพัฒนา KAS ตามที่หลักสูตรกำหนดไว้อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของหลักสูตร
K( Knowledge ) คือ ความรู้ที่มีความแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาและระดับการศึกษาของผู้เรียน
A ( Attitude ) คือ ความมีทัศนคติหรือเจตคติต่อสิ่งที่เรียน
S ( Skills ) คือ ทักษะต่าง ๆที่ต้องการจะให้เกิดขึ้นกับผู้เรียน
ในขั้นต่อมาคือ การกำหนดเนื้อหารายละเอียดของหลักสูตร ซึ่งจะต้องมีเนื้อหากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้เกิด KAS หรือพฤติกรรมที่คาดหวัง ตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
จากขั้นที่ 2 เป็นการพัฒนาผู้เรียนตามแนวทางที่หลักสูตรกำหนดผ่านกระบวนการ Learning ที่เป็นการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่มีการวัดผล ประเมินผลควบคุมไว้ ซึ่งการวัดผล ประเมินผล ที่มีทั้งเป็น Formative Evaluation และ Summative Evaluation ซึ่งในขั้นสุดท้าย ผู้เรียนจะได้เรียนรู้และพัฒนา KAS ตามที่หลักสูตรกำหนดไว้อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของหลักสูตร
2.ศึกษาทำความเช้าใจเพิ่มเติมจาก
สุเทพ อ่วมเจริญ การพัฒนาหลักสูตร: ทฤษฎีและการปฏิบัติ การพัฒนาหลักสูตรการ:แบบจำลอง การพัฒนาหลักสูตร
กระบวนการพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดแบบจำลอง SU Model ดร.สุเทพ อ่วมเจริญ
กระบวนการพัฒนาหลักสูตร (สามเหลี่ยมใหญ่) จะประกอบด้วยขั้นตอนในการจัดทำหลักสูดร
(สามเหลี่ยมเล็กๆ 4 ภาพ)
โดยประกอบด้วย 4 ขั้นตอนดังนี้
1. สามเหลี่ยมแรก การวางแผนหลักสูตร (Curriculum Planning) อาศัยแนวคิดพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์คำถามที่หนึ่งคือ มีจุดมุ่งหมายอะไรบ้างในการศึกษาที่โรงเรียนต้องแสวงหา
เพื่อนำไปวางแผ่นหลักสูตร กำหนดจุดหมายหลักสูตร
2. สามเหลี่ยมรูปที่สอง การออกแบบ (Curriculum Design) นำจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตรมาจัดทำกรอบการปฏิบัติ ม่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามกระบวนการของหลักสูตร สอดคล้องกับคำถามที่สองของไทเลอร์คือมีประสบการณ์ศึกษาอะไรบ้างที่โรงเรียนควรจัดเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายในการศึกษา การออกแบบหลักสูตรเพื่อให้มีจัดกิจกรรมหรือประสบการณ์ที่ตอบสนองจุดหมายและจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
3. สามเหลี่ยมรูปที่สาม การจัดระบบหลักสูตร (Curriculum Organize) จัดหลักสูตรเพื่อตอบสนองการวางแผนหลักสูตร สองคล้องกับคำถามที่สามของไทเลอร์ คือ จัดประสบการณ์เรียนรู้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ การจัดระบบหลักสูตรให้ได้ประสิทธิภาพมีความหมายรวมถึงการบริหารที่สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ และรวมถึงการนิเทศการศึกษา
4. สามเหลี่ยมรูปที่สี่ การประเมิน (CurriculumEvaluation) ประเมินทั้งระบบหลักสูตรและผลการเรียนรู้ตามหลักสูตร สอดคล้องคำถามที่สี่ของไทเลอร์ คือ ประเมินประสิทธิผลของประสบการณ์ในการเรียนอย่างไร
พื้นฐานแนวคิด SU
Model มาจากการพัฒนาสามเหลี่ยมมุมบน
มุ่งเน้นให้การศึกษา 3 ส่วน
คือ จริยศึกษา เป็นการอบรมศีลธรรมอันดีงาม
พุทธิศึกษา ให้ปัญญาความรู้ และพลศึกษา เป็นการฝึกหัดให้มีร่างกายสมบูรณ์
เมื่อนำมาใช้จะได้ว่า เป้าหมายหมายของสูตรจะมุ่งเน้นให้เกิด
ความรู้ (knowledge) พัฒนาผู้เรียน (leader) และสังคม (society) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นคนที่ “เก่ง ดี มีสุข” การพัฒนาหลักสูตรจะประกอบไปด้วย 3 ด้าน คือ ด้านปรัชญาการศึกษา ด้านจิตวิทยา และด้านสังคม มีการพัฒนาหลักสูตรจากรูปสามเหลี่ยมไปสู่การวางแผนหลักสูตร
การออกแบบหลักสูตร การนำหลักสูตรไปใช้
และการประเมินหลักสูตร ดังภาพ SU Model มีขั้นตอนดังนี้
1. เริ่มจากวงกลม หมายถึง
จักรวาลแห่งการเรียนรู้ รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าหมายถึง กระบวนการพัฒนาหลักสูตร
2. ระบุพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร ในพื้นที่วงกลมซึ่งมีพื้นฐานหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตร
ระบุพื้นฐาน 3 ด้าน (ปรัชญาจิตวิทยาสังคม) ลงในช่องว่างนอกรูปโดยกำหนดให้ด้านสามเหลี่ยมระหว่างความรู้กับผู้เรียนมีพื้นฐานสำคัญคือ
พื้นฐานด้านปรัชญา ด้านสามเหลี่ยมระหว่างผู้เรียนกับสังคมมีพื้นฐานผู้เรียนกับสังคมมีพื้นฐานสำคัญคือ พื้นฐานด้านจิตวิทยา
และด้านสามเหลี่ยมระหว่างสังคมกับความรู้มีพื้นฐานสำคัญคือ พื้นฐานด้านสังคม
3. พื้นฐานด้านปรัชญา ได้แนวคิดว่าการพัฒนาหลักสูตรที่มีจุหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นความรู้ มาจากพื้นฐานสามรัตถนิยมกับปรัชญานิรันตรนิยม การพัฒนาหลักสูตรที่มีจุดมุ่งหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นผู้เรียน มาจากพื้นฐานปรัชญาอัตถิภาวะนิวม และการพัฒนาหลักสูตรที่มีจุดหมายของหลักสูตรที่มุ่งเน้นสังคม มาจากพื้นฐานปรัชญาปฏิรูปนิยม
4. กำหนดจุดกึ่งกลางของด้านสามเหลี่ยมทั้งสามด้าน เพื่อแทนความหมายว่าในการพัฒนาหลักสูตรต้องใช้ข้อมูลพื้นฐานด้านปรัชญา
จิตวิทยา และสังคม
5. พิจารณากระบวนการพัฒนาหลักสูตร นำแนวคิดกระบวนการพัฒนาหลักสูตรมากำหนดชื่อสามเหลี่ยมเล็กๆทั้งสี่รูป
ได้แก่ การวางแผนหลักสูตร การออกแบบหลักสูตร
การจัดหลักสูตร และการประเมินหลักสูตร
หลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีพื้นฐานที่สำคัญจากปรัชญาพิพัฒนาการ ที่มีความเชื่อว่าสาระสำคัญและความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลายนั้นไม่ได้หยุดนิ่ง ฉะนั้นวิธีการทางการศึกษาจึงต้องพยายามปรับปรุงให้สอดคล้องกับกาลเวลาและสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ
หลักการสำคัญในการนำหลักสูตรไปใช้ได้ดังนี้
1. มีการวางแผนและเตรียมการในการนำหลักสูตรไปใช้
ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะได้ศึกษาวิเคราะห์ ทำความเข้าใจหลักสูตรที่จะนำไปใช้ให้มีความเข้าใจตรงกันเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในทำนองเดียวกันและสอดคล้องต่อเนื่องกัน
2. มีคณะบุคคลทั้งส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นที่จะต้องทำหน้าที่ประสานงานกันเป็นอย่างดี
ในแต่ละขั้นตอนในการนำหลักสูตรไปใช้
3. ดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนและเตรียมการไว้การนำหลักสูตรไปใช้จะต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ
ที่จะช่วยให้การนำหลักสูตรไปใช้ประสบความสำเร็จได้ ปัจจัยต่างๆ ได้แก่ งบประมาณ
วัสดุอุปกรณ์ เอกสารหลักสูตรต่าง ตลอดจนสถานที่ต่างๆ
ที่จะเป็นแหล่งให้ความรู้ประสบการณ์ต่างๆ
สิ่งเหล่านี้จะต้องได้รับการจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี
และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนได้เมื่อได้รับการร้องขอ
4. ครูเป็นบุคลากรที่สำคัญในการนำหลักสูตรไปใช้
ดังนั้นครูจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่และจริงจัง ตั้งแต่การอบรมความรู้ ความเข้าใจทักษะและเจตคติเกี่ยวกับการใช้หลักสูตรอย่างเข้มข้น
5. การนำหลักสูตรไปใช้ควรจัดตั้งให้มีหน่วยงานที่มีผู้ชำนาญการพิเศษ เพื่อให้การสนับสนุนและพัฒนาครูโดยการทำหน้าที่นิเทศ
ติดตามผลการนำหลักสูตรไปใช้ และควรปฏิบัติงานร่วมกับครูอย่างใกล้ชิด
6. หน่วยงานและบุคลากรในฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำหลักสูตรไปใช้
ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางหรือส่วนท้องถิ่นต้องปฏิบัติงานในบทบาทหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ
7. การนำหลักสูตรไปใช้สำหรับผู้ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน จะต้องมีติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ เพื่อจะได้นำข้อมูลต่างๆ มาประเมินวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาทั้งในแง่การปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
และการวางแนวทางในการนำหลักสูตรไปใช้ ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น